วิธีการเลือกสว่านไร้สาย

ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสว่านไร้สายนั้นจะต้องตรวจสอบก่อนว่าสิ่งที่เลือกมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยังต้องเช็กแรงดันไฟและขนาดความจุของแบตเตอรี่เพื่อคำนวณระยะเวลาการใช้งาน โดยข้อมูลเหล่านี้จะใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อสว่านไร้สาย เพื่อให้ได้เครื่องมืองานเจาะที่มีประสิทธิภาพสูงสุดครับ

① เลือกสว่านไร้สายตามลักษณะการใช้งาน

หากแบ่งตามการใช้งานสว่านนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ งานเจาะทั่วไปสำหรับวัสดุที่เป็นไม้และเหล็ก และเจาะแบบกระแทกสำหรับงานปูนและหิน ซึ่งลักษณะการใช้งานที่ต่างกันนี้ทำให้มีการออกแบบชุดจับดอกสว่านและกลไกส่วนหน้าให้แตกต่างกัน มาดูกันดีกว่าครับว่าสว่านแต่ละแบบนั้นเหมาะกับงานแบบไหนบ้าง

สว่านไร้สายธรรมดา

สว่านประเภทนี้ใช้งานได้อเนกประสงค์ ซึ่งจะเหมาะสำหรับงานช่าง DIY ช่างทำเครื่องดนตรี ตลอดจนช่างเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั่วไป โดยมีฟังก์ชันการเจาะเป็นฟังก์ชันหลักของการใช้งาน สามารถปรับระดับความเร็วรอบการหมุนให้สอดคล้องกับพื้นผิววัสดุที่ต้องการเจาะได้ง่าย แม้ว่าในบางรุ่นจะมีโหมดเจาะกระแทก แต่ก็ไม่ควรใช้ฟังก์ชันนี้เป็นฟังก์ชันหลักในการเจาะปูน เพราะโครงสร้างของสว่านประเภทนี้มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวจำนวนมาก ซึ่งอาจจะส่งผลให้ตัวเครื่องเกิดการสึกหรอได้เร็วขึ้นครับ

สว่านโรตารีไร้สาย

โครงสร้างของสว่านไร้สายประเภทนี้ออกแบบมาให้ทนต่อแรงกระแทก มีห้องเกียร์ขับกระแทกแบบลูกเบี้ยว ให้อัตราการกระแทกสูงและระยะการกระแทกกว้างขึ้น ไม่สามารถใช้ร่วมกับดอกสว่านสำหรับเจาะไม้และเจาะโลหะได้ จะต้องใช้ดอกเจาะเฉพาะเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าจะใช้วิธีการต่อหัวจับแบบอะแดปเตอร์ แต่ก็จะให้คุณภาพการเจาะไม้และโลหะที่ไม่แม่นยำเท่าสว่านไร้สายธรรมดา ถ้าหากใช้งานประจำเพื่อการเจาะปูน เจาะหิน หรืองานช่าง งานติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ไม่ต้องการพ่วงสายไฟจึงจะคุ้มค่าครับ

สว่านไขควงไร้สาย

ในการถอดประกอบและติดตั้งชิ้นส่วนเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนที่มีนอต โบลท์ สกรูจำนวนมาก จำเป็นจะต้องใช้สว่านไขควงไร้สายเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งสว่านไขควงจะช่วยถนอมหัวสกรู ลดการฉีกขาดบิดเบี้ยวเสียรูปได้เป็นอย่างดี สว่านไขควงแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือรุ่นธรรมดา จะมีขนาดเล็กสำหรับงานอิเล็กทรอนิกส์หรืองานประดิษฐ์ DIY ทั่วไป และรุ่นกระแทกหรือสว่านจับลูกบล็อก ซึ่งมีขนาดใหญ่น้ำหนักมาก จะมีฟังก์ชันการกระแทกเพื่อให้หัวน็อตที่ขึ้นสนิมเกิดการคลายตัวลดความเสียหายจากหัวโบลท์ขาดได้ครับ

② ตรวจสอบแรงบิดของสว่านไร้สาย

อัตราแรงบิดของสว่านไร้สายจะระบุเป็น นิวตันเมตร (Nm) หน่วยนี้จะบอกกำลังขับในการเคลื่อนไหวดอกสว่านให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ สว่านที่มีแรงบิดต่ำจะไม่สามารถใช้ร่วมกับดอกสว่านที่มีหน้าตัดกว้างได้ รวมถึงไม่สามารถเจาะวัสดุที่มีความเหนียว ความแข็ง และความหนาอย่างต่อเนื่องได้ จึงเหมาะสำหรับงานขนาดเล็ก ส่วนสว่านแรงบิดสูงจะเจาะวัสดุได้หลากหลาย เนื่องจากแรงบิดและแรงสะบัดที่สูง เมื่อนำมาจับดอกขนาดเล็กก็มักจะทำให้ดอกสว่านหักติดกับชิ้นงานได้ ดังนั้น ในการเลือกสว่านไร้สายควรตรวจสอบแรงบิดของสว่านให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานครับ

③ ตรวจสอบประเภทมอเตอร์ของสว่านไร้สาย

สว่านไร้สายในอดีตจะใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนประเภทมอเตอร์แปลงถ่านซึ่งมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก แรงบิดต่ำ ที่สำคัญจะต้องคอยเปลี่ยนแปลงถ่านเมื่อครบอายุการใช้งาน ทำให้เครื่องมือไร้สายในยุคก่อนซ่อมบำรุงยากจึงไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ในปัจจุบันมอเตอร์ถูกพัฒนาให้เป็นมอเตอร์บัสเลสซึ่งไม่มีแปลงถ่าน ใช้การเหนี่ยวนำไฟฟ้าจากแม่เหล็กถาวร จึงมีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัดลง แต่กลับให้แรงขับที่สูงขึ้นและจะไม่เกิดประกายไฟขณะเหนี่ยวนำไฟฟ้า จึงใช้งานในพื้นที่แห้งและพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้ ส่วนมอเตอร์แปลงถ่านจะมีความคุ้มค่าเมื่อใช้เป็นสว่านสำรองหรือสว่านไร้สายที่ใช้ในยามฉุกเฉินครับ

④ ตรวจสอบความจุไฟและแรงดันแบตเตอรี่ของสว่านไร้สาย

ตรวจสอบความจุไฟและแรงดันแบตเตอรี่ของสว่านไร้สาย

ชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้สว่านไร้สายทำงานได้คือแบตเตอรี่ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบแรงดันแบตเตอรี่ได้ที่ค่าโวลต์ (V) ส่วนใหญ่แล้วจะมีค่าเริ่มต้นตั้งแต่ 10 – 24 โวลต์ จะสังเกตได้ว่ายิ่งค่าแรงดันแบตเตอรี่สูง มอเตอร์ที่ใช้ภายในสว่านไร้สายก็จะมีขนาดใหญ่และแรงบิดสูงตามไปด้วย ส่วนค่าความจุไฟจะมีหน่วยเป็นแอมป์ชั่วโมง (Ah) ยิ่งตัวเลขค่านี้สูงยิ่งแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่สามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้นานยิ่งขึ้น แต่แบตเตอรี่ที่มีค่าความจุไฟสูงก็จะมีขนาดใหญ่มีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้สว่านเทอะทะใช้งานยาก ซึ่งหากเป็นสว่านไร้สายขนาดใหญ่ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุไฟสูงไว้ก่อน เพื่อป้องกันการกระชากไฟครับ

⑤ เลือกสว่านไร้สายที่มีไฟฉาย LED เมื่อต้องใช้ทำงานในที่แสงน้อย

จากประสบการณ์จริงในการใช้งานพบว่า บ่อยครั้งที่จำเป็นต้องใช้ในพื้นที่แสงน้อย ไม่ว่าจะเป็นการเจาะใต้ฝ้าเพดาน การเจาะท่อระบายน้ำ หรือแม้กระทั่งการเจาะในมุมอับของห้อง ไฟฟ้าส่องสว่างสำหรับสว่านไร้สายจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งไฟฉายของสว่านไร้สายส่วนใหญ่จะเป็นไฟฉาย LED ใช้กระแสไฟฟ้าต่ำ แต่ให้แสงสว่างความเข้มสูง นอกจากจะใช้เพื่อให้ช่างมองเห็นในที่มืดได้แล้ว ยังใช้เป็นไฟระบุตำแหน่งในการเจาะได้อีกด้วยครับ หากต้องการเจาะชิ้นงานร่วมกับการใช้เลเซอร์วัดระดับก็ควรเลือกใช้รุ่นที่มีไฟฉายแสงโทนสีขาวหรือสีวอร์ม ควรหลีกเลี่ยงแสงโทนสีน้ำเงินหรือสีแดงเพื่อให้เห็นเส้นเลเซอร์ชัดเจนครับ


Posted

in

บทความน่าอ่าน

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *